วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ประวัติลาวคั่ง

ประวัติความเป็นมาของคนไทยเชื้อสายลาวคั่ง
   ประวัติความเป็นมาของลาวครั่งนั้น   จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่าบรรพบุรุษได้อพยพมาจาก
อาณาจักรเวียงจันทร์ และหลวงพระบางพร้อมกับลาวกลุ่มอื่นๆได้อพยพเข้ามาที่ประเทศไทยด้วยเหตุผลที่ทางการเมืองและเป็นเชลยศึกยามสงคราม อาศัยอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศไทย
         สิริวัฒน์ คำวันสา (2529 : 20)    ได้กล่าวว่าลาวครั่งเป็นชื่อของภาษาและกลุ่มผู้มีเชื้อสายลาวกลุ่มหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยเช่นในนครปฐม สุพรรณบุรี ชัยนาท อุทัยธานี กำแพงเพชร ฯลฯ 
ลาวครั่งมักจะเรียกตนเองว่า "ลาวขี้ครั่ง" หรือ "ลาวคั่ง" ความหมายของคำว่า "ลาวครั่ง" ยังไม่ทราบความหมาย
ที่แน่ชัดบางท่านสันนิฐานว่ามาจากคำว่า "ภูฆัง" ซึ่งเป็นชื่อของภูเขาที่มีลักษณะคล้ายระฆัง อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
 ของหลวงพระบางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อันเป็นถิ่นฐานเดิมของลาวครั่ง
                                วัลลียา วัชราภรณ์ (2534 : 11-12) ได้สรุป จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เชื่อแน่ว่าชาวลาวครั่งถูกกวาดต้อนเข้ามาในประเทศไทยในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีปีพุทธศักราช 2321 และในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชในปีพุทธศักราช 2334 ไม่ปีใดก็ปีหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะไทยยกกองทัพไปตีเมือง
หลวงพระบาง และกวาดต้อนครอบครัวของชาวลาวมาในช่วงนั้น เนื่องจากแพ้สงคราม 
    ลักษณะทั่วไปของลาวครั่ง คือมีรูปร่างค่อนข้างไปทางสูงหรือสันทัด ทั้งหญิงและชายผิวค่อนข้อง
เหลือง ตาสองชั้น ใบหน้าไม่เหลี่ยมมากจมูกมีสันผมเหยียดตรง ชอบนุ่งผ้าสิ้นคลุมเข่า นุ่งซิ่นหมี่มีดอก ลาวครั่งมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ในการทอผ้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน และใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆโดยเฉพาะเทศกาลต่างๆจากเอกสารของนักวิจัยที่ทำการค้นคว้าและศึกษาอาจจะสรุปความหมายของ 
 ลาวครั่งได้ 2 ประเด็น คือ
                ประเด็นที่ 1      มาจากชื่อของภูเขา ในอาณาเขตของอาณาจักรหลวงพระบาง   ที่มีรูปร่างเหมือนกับระฆัง
จึงทำให้เรียกชื่อตามนั้น คือ ลาวภูฆัง และ เรียกกันจนเพี้ยนกลายเป็น ลาวครั่ง

                ประเด็นที่ 2      สันนิษฐานว่าสาเหตุที่เรียกชื่อกลุ่มของตนเองมาตั้งแต่โบราณว่า  ลาวครั่ง เป็นการเรียกตาม
ชื่อของครั่งที่นิยมนำมาใช้ย้อมสีผ้าให้เป็นสีแดง เพื่อใช้ในการทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม


     สำหรับคนไทยเชื้อสายลาวครั่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนมากปัจจุบัน อาศัยอยู่ในอำเภอเดิมบาง
นางบวชเช่นตำบลบ่อกรุ  ตำบลหนองกระทุ่ม ตำบลป่าสะแกในอำเภอด่านช้าง เช่น ตำบลหนอง-มะค่าโมง ส่วนมากนับถือศาสนาพุทธโ

1 ความคิดเห็น:

รัสสา กล่าวว่า...

อยู่บ้านบ่อกรุ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ตั่งแต่เฮายังเป็นเด็กน้อยโซ้นเฒ่า จะเล่าแต่เรื่อง บ้านแตกศึก ให้ฟังตลอด บอกว่าบอกเล่ามาต่อๆกัน ว่าไทยไปเฮ็ดศึกกับลาวแล้วเฮาแพ้ บ้านเลยแตกศึก เลยต้องมาอยู่ไทย ฟังจนจำได้ขึ้นใจเลยเด้อ